Posts

เนื่องจากมือถือ Mi Note 10 Lite ที่ใช้งานอยู่ทุกวันมีอาการผิดปกติ เริ่มต้นด้วยอาการ boot loop ก็เลยปล่อยให้แบตฯ หมดไปเอง เพื่อจะได้ชาร์จแบตฯ เข้าไปใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อเสียบชาร์จแบตฯ อาการ boot loop กลับมาอีกครั้ง และก็เริ่มมีอาการชาร์จแบตฯ ไม่เข้า! คุ้นๆว่าตัวเครื่องมีประกันศูนย์ 15 เดือน ก็เลยลองนับจากวันที่ซื้อ (ตัวเครื่องซื้อมาจาก Lazada) เอ้ย! ยังมีประกันอีกตั้ง 1 เดือน ไม่รอช้า รีบติดต่อทางศูนย์บริการ Xiaomi Customer Service โทรเบอร์ 1800-012-368 ไม่มีคนรับสาย ลองอีกรอบ ก็ไม่มีคนรับสาย! เลยส่งเมล์เข้าไปแทน [email protected] โดยแจ้งชื่อรุ่น + หมายเลข IMEI และแนบรูปกล่องส่วนของ IMEI ไปให้เขาด้วย ส่งไปช่วงเช้า เย็นเขาตอบเมล์กลับมาว่า “ตัวเครื่องของท่านยังอยู่ในระยะประกัน และจะสิ้นสุดวันที่ 2021-09-17” เหลือประกันประมาณ 1 เดือนจริงๆด้วย ( เงื่อนไขการรับประกัน ) โดยในเมล์แจ้งอีกว่า “เนื่องจากสถานการณ์ covid-19 แนะนำให้ติดต่อ ศูนย์บริการแต่งตั้งแขวงลาดพร้าวเป็นหลัก****ถนนสุคนธสวัสดิ์ โดยตรง หรือส่งเครื่องผ่านทางไปรษณีย์” เราเลยลองหาข้อมูลศูนย์ Xiaomi ถนนสุคนธสวัสดิ์ ไปเจอว่ามันคือ ศูนย์ Synnex นั้นเอง ...

สำหรับ Home Assistant ตั้งแต่เวอร์ชั่น 2021.8.0 จะมีการเพิ่มเมนูหลักด้านซ้าย โดยจะเป็นส่วนการแสดงผล Energy Dashboard ( demo ) หลังจากเปิดดูตัวอย่างของเขาอลังการมากๆ แต่สำหรับวันนี้ผมจะมาทดลองใช้งานแค่ส่วนของ Solar Panels เพื่อจะเป็นไอเดียนะ เริ่มต้นผมจะใช้วิธี integration ปลั๊กไฟ Sonoff S31 เข้าระบบ Home Assistant เพื่อจะใช้งานในส่วนของการวัดกำลังไฟฟ้า (Power) เชื่อมต่อ Sonoff S31 เข้าระบบ Home Assistant แล้วใช้ micro grid tie ในการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ นำมาเสียบกับปลั๊กไฟ Sonoff อาศัยหลักการความต่างศักย์ทางไฟฟ้า เพื่อให้ไฟไหลผ่านปลั๊ก Omniksol-SMP600 Micro Grid Tie สำหรับผู้เริ่มต้น เริ่มต้น Configuration ทำการแก้ไขไฟล์ configuration.yaml sensor: platform: integration source: sensor.sonoff_10012eed24_power name: Omnik SMP600 platform: integration ( อ่านเพิ่มเติม ) source: sensor.sonoff_10012eed24_power จะเป็น sensor กำลังไฟฟ้าจากปลั๊กไฟ Sonoff หน่วยเป็นวัตต์ (W) name: Omnik SMP600 ตั้งชื่อตามสะดวก โดยผมจะใช้ชื่อ micro grid tie Validate Configuration จากนั้น restart HA ...

ตอนนี้โปรเจค Solar Cell DIY ของผมก็เริ่มทดลองใช้งานจริงแล้ว หลังจากศึกษาหาข้อมูลนานพอสมควร จริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก กว่าจะซื้ออุปกรณ์ครบทุกชิ้นต่างหาก 555+ โดยการต่อใช้งานหลักๆ ก็จะมี micro grid tie คู่กับแผงโซล่าเซลล์ Mono 390W แผงโซล่าเซลล์ Genius Mono 390W สำหรับ Omniksol-SMP600 จะเป็น micro grid tie นะครับ เหตุผลที่เลือกใช้แบบนี้เพราะว่า ถ้าเราเทียบ grid tie ในช่วงวัตต์ใกล้เคียงกัน micro grid tie แบบนี้มี MPPT ที่ค่อนข้างดีกว่า ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานค่อนข้างสูงกว่าตามไปด้วย โดยผมจะใช้ปลั๊ก Sonoff S31 ในการวัดค่ากำลังการผลิตไฟฟ้า Sonoff S31 ปลั๊กไวไฟ สามารถวัดการใช้พลังงานได้ คำเตือน: การใช้งานเป็นแบบทดสอบระบบเพื่อจะ integrate เข้ากับ Home Assistant เท่านั้น! ข้อสังเกต ใช้เวลา sync ไฟ ac ค่อนข้างนาน ประมาณ 3 - 5 นาที ไม่มีสาย ac แถมมาในกล่อง

สำหรับวิธีการ integration อุปกรณ์ Sonoff เข้าระบบ Home Assistant สามารถทำได้หลายวิธี แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำ Add-on: Sonoff LAN เหตุผลที่เลือกตัวนี้ เพราะว่าผมจะใช้ความสามารถ LAN Mode ของอุปกรณ์ Sonoff โดยไม่จำเป็นต้องผ่านระบบ Cloud Sonoff S31 ปลั๊กไวไฟ สามารถวัดการใช้พลังงานได้ การติดตั้ง Add-on: Sonoff LAN สามารถติดตั้งได้ทาง HACS โดยเข้าไปเพิ่ม Custom repositories สามารถใช้ชื่อ Repo ข้างล่างได้เลย ตอนเพิ่มให้เลือก Category เป็น integration แล้ว restart HA AlexxIT/SonoffLAN เริ่มต้น Config Home Assistant ทำการแก้ไขไฟล์ configuration.yaml sonoff: username: !secret sonoff_username password: !secret sonoff_password username, password สำหรับใช้งานบน APP Ewelink จากนั้นทำการ restart HA เข้าไปที่โฟลเดอร์ config/ เราจะมองเห็นไฟล์ .sonoff.json ให้ทำการเปิดไฟล์ดังกล่าว แล้วค้นหา deviceid, devicekey ...

สำหรับใครที่กำลังมองหา สมาร์ทปลั๊ก ปลั๊กไวไฟ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ app ได้ ขอแนะนำ Sonoff S31 ซึ่งปลั๊กตัวนี้จะแตกต่างจากปลั๊กไวไฟทั่วไป นอกจากเปิด-ปิด ผ่านทาง app ได้แล้ว มันสามารถวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลย้อนหลัง 100 วัน และตั้งค่า Over-load เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้อีกด้วย ข้อสังเกต สเปคตัวเครื่องระบุ input/output 120v ac แต่สามารถใช้งานกับไฟ 220v ac ปลั๊กเป็นแบบ US Type อาจจะต้องหาหัวแปลงมาใช้งานเพิ่มเติม

แปรงทำความสะอาดเอนกประสงค์ตัวนี้ ผมใช้มานานพอสมควร เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่มันไปรอบนึงแล้ว ตอนนั้นใช้วิธีบัดกรีสายไฟเข้ากับตัวแบตเตอรี่เลย มาช่วงหลังๆ แบตเตอรี่ มันน่าจะเริ่มมีปัญหาแล้วละ เพราะชาร์จครั้งนึง จะใช้งานได้ประมาณ 30-40 นาทีเอง ก็เลยคิดว่ารอบนี้จะเปลี่ยนแบบใช้รางถ่านไปเลย เผื่ออนาคตจะได้สะดวก ถ้ามันไม่พังซะก่อน

ตอนนี้สถานการณ์โควิด 19 ในบ้านเราค่อนข้างรุนแรง การจะมีเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ก็คงจะไม่แปลกอะไร แต่เจ้าเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด มีขายในโลกออนไลน์ค่อนข้างเยอะพอสมควร เราจะเลือกซื้อตัวไหนมาใช้งานกันดี Pulse Oximeter LK87 เราได้มาในราคาประมาณ 100 กว่าบาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะ ข้อสังเกต ตัวเครื่องไม่มีถ่าน AAA แถมมาในกล่อง ตัวรางใส่ถ่านงานพลาสติก ไม่ค่อยแน่นหนา ใช้สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือด เพียงเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทางการแพทย์

ช่วงนี้เริ่มสนใจพลังงานทางเลือก ก็เลยได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ พอหาข้อมูลไปเยอะๆ ต่างประเทศมีการใช้งานกันพอสมควร น่าจะผลมาจาก “เทสล่า (Tesla)” หรือเขาอาจจะเริ่มกันมานานแระ แต่เราไม่รู้ 555+ ในเมืองไทยก็มีกลุ่มผู้ใช้งานโซล่าเซลล์เยอะมาก ราคาอุปกรณ์ ก็เริ่มถูกลง ก็เลยอยากลองเริ่มต้นโครงการ Solar Cell DIY ดูบ้าง! โดยสำหรับอุปกรณ์ตัวแรกจะเป็นแผงโซล่าเซลล์โมโนขนาด 390W ข้อสังเกต ตัวแผงมีรอยขีดข่วน เยอะพอสมควร น่าจะมาจากการขนส่ง แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน แผงมีน้ำหนัก 23 กิโลกรัม ถ้ายกคนเดียว ต้องใช้แรงเยอะนิดนึง

ถ้าคุณกำลังมองหาดิจิตอลมัลติมิเตอร์ ที่มีความสามารถ แคลมป์มิเตอร์ได้ด้วย เราขอแนะนำ Aneng ST182 อ่านว่า “อเนง” มั่ง! เราก็ไม่ค่อยชัวร์เหมือนกัน แต่แบรนด์นี้มีเครื่องมือสำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างเยอะเลย สินค้าของเขาค่อนข้างดูดี ใช้งานได้จริง และที่สำคัญคือ ราคาไม่แพง! อย่างเจ้าแคลมป์มิเตอร์ตัวนี้ เราได้มาในราคาประมาณ 2xx บาท ส่วนมันสามารถทำอะไรได้บ้าง ลองดูจากคลิปรีวิวข้างล่างได้เลย ข้อสังเกต โหมดแคลมป์มิเตอร์สามารถใช้งานได้แค่ไฟ AC ไม่มีถ่านแถมมาในกล่อง

หลายคนคงซื้อสินค้าผ่านทาง lazada บ่อยครั้ง ยิ่งช่วง WFH อาจจะซื้อสินค้ามากกว่าปกติ ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน 555+ แต่อาจจะมีเพื่อนๆบางคน ยังไม่รู้ว่า กรณีเราสั่งสินค้ามาแล้ว สินค้าเสียหาย ชำรุด เราสามารถทำเรื่องคืนสินค้าได้! โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปส่งสินค้า! วิธีส่งคืนสินค้ามีดังนี้ ส่งสินค้าคืนเองที่สาขาขนส่ง ให้ขนส่งเข้ามารับสินค้าคืน แต่สำหรับวันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีส่งคืนสินค้าแบบ **ให้ขนส่งเข้ามารับสินค้าคืน **ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกเหมาะสำหรับช่วง WFH เพราะเราแค่รออยู่ที่บ้าน ทาง flash express จะเข้ามาถึงบ้าน เริ่มขั้นตอนคืนสินค้า เมื่อเราได้รับสินค้าแล้ว ลองทดสอบการใช้งาน และมั่นใจว่าสินค้ามันผิดปกติแน่นอน ให้เราเข้าไปตรงส่วนของ รายการสั่งซื้อ กดปุ่ม คืนสินค้า/คืนเงิน กรอกรายละเอียดสินค้า + รูปประกอบ และเลือก เหตุผลการขอคืนสินค้า/คืนเงิน ระบบจะแจ้งให้เรารอ ทางร้านค้าอนุมัติการคืนสินค้า/ปฏิเสธ ตรงส่วนนี้เราก็รอไปเรื่อยๆ โดยระบบจะแจ้งว่า ร้านค้าจะตอบกลับภายใน วันที่ และเวลา หลังจากทางร้านยอมรับคำขอคืนสินค้าของคุณแล้ว ตรงจุดนี้สำคัญนะ ให้ทำการเลือก ให้ขนส่งเข้ามารับสินค้าคืน ระบบจะแจ้งว่า คืนสินค้าผ่านทาง flash express ทำการกดปุ่ม **ยืนยันวิธีการจัดส่งคืน **จากนั้นก็รอทางเจ้าหน้าที่ flash express เข้ามารับพัสดุ ระหว่างนี้ให้เราทำการแพ็คสินค้าที่มีปัญหาใส่กล่องไว้ได้เลย แล้วก็เตรียม qrcode เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ทำการสแกน ตอนเข้ามารับพัสดุ โดยไม่จำเป็นต้องปริ้นเอกสารอะไรแปะหน้ากล่องพัสดุ ระหว่างนี้เราก็แค่รอให้สินค้าเดินทาง กลับไปถึงร้านค้า รอทางร้านค้าตรวจสอบ ถ้าสินค้ามีปัญหาตามที่แจ้งจริงๆ ทางร้านค้าก็จะทำการอนุมัติการคืนเงิน โดยจะเป็นการคืนผ่านช่องทาง ตามที่เราชำระสั่งสินค้าเข้ามานั้นเอง ...