รีวิว แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B Advance Power 400
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมต้องใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ? แล้วมันดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดายังไง ? คือจะบอกว่ามันไม่มีคำตอบตายตัว มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆ ว่าอยากใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดมากน้อยแค่ไหน
หน้าตาของแปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B Advance Power 400 ดูธรรมดามากๆ เพราะว่าเป็นรุ่นราคาประหยัด ขนาดตัวเครื่องโดยประมาณ
- ความสูง 21.1 ซม.
- ความกว้าง 3.2 ซม.
- ความหนา 3.7 ซม.
- น้ำหนัก 138 กรัม
เมื่อแกะแพ็คเกจออกมาจะเจออุปกรณ์ภายใน ซึ่งประกอบด้วย
- แปรงสีฟันไฟฟ้า + หัวแปรง
- ถ่านขนาด AA จำนวน 2 ก้อน
- คู่มือภาษาอังกฤษ
สำหรับวิธีใส่ถ่านให้บีบตรงปุ่มล่างๆของตัวแปรง แล้วดึงฝาข้างล่างออก จากนั้นทำการบรรจุถ่านเข้าไป ปิดฝาให้เรียบร้อย แค่นี้แปรงไฟฟ้าของเราก็พร้อมใช้งานแล้ว
การใช้งานให้กดปุ่มตามรูปเพื่อเปิด และกดอีกครั้งจะเป็นการปิด ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้วหัวแปรงจะหมุน เราก็แค่เอาไปวางบนฟันของเราได้เลย
สรุปควรซื้อไหม ?
- ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องเหงือกร่น ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า
- ถ้าคุณตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือน แล้วมีปัญหาเรื่องหินปูนที่เยอะกว่าปกติ แสดงว่าคุณแปรงฟันไม่สะอาด ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า
- สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นใช้แปรงไฟฟ้า รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นรุ่นราคาประหยัด
- สามารถใช้งานได้ 900 นาทีหรือ 225 วัน (ใช้งานวันละ 2 ครั้ง)
- ถ้าคุณอยากเท่ห์เหมือนในหนังฝรั่ง ก็ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า (เกี่ยวไหม 555)
ข้อสังเกต
- ไม่มีระบบตั้งเวลาการแปรงฟัน
- ไม่มีโหมดการแปรงฟันให้เลือกใช้งาน
- ใช้พลังงานจากถ่าน AA
- ราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับแปรงธรรมดา