Reviews

ที่บ้านจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าของ Xiaomi อยู่แล้ว ซึ่งตัวเก่าจะเป็นรุ่น SO WHITE EX3 หลังจากใช้งานมานานพอสมควร อยู่ดีๆ มันก็เปิดใช้งานไม่ได้! ก็เลยจำเป็นต้องหาซื้อใหม่ ซึ่งไปเจอรุ่น Mijia T100 ราคาไม่ต่างกัน แถมมีสีชมพู (เจ้าของแปรงอยากได้สีเดิม) อีกอย่างนึงคือมันชาร์จแบตฯ ผ่านทาง micro usb ค่อนข้างจะสะดวกกว่าตัวเก่าพอสมควร อุปกรณ์ภายในกล่อง ตัวแปรงสีฟัน หัวแปรงสีฟัน สายชาร์จแบบ micro usb หัวแปรงเขาจะแยกแพคเกจออกไป เพื่อป้องกันความสะอาด เมื่อเราแกะออกมา สามารถนำไปสวมกับหัวแปรงได้เลย โดยส่วนของหัวแปรงนั้น สามารถหาซื้อเปลี่ยนได้ ราคาอยู่ประมาณ 99 บาท ต่อ 3 ชิ้น ตรงส่วนท้ายของแปรงสีฟัน สามารถเปิดได้ เป็นส่วนของการชาร์จแบตฯ ซึ่งเราสามารถใช้สาย micro usb ที่แถมในกล่องเสียบได้เลย ไฟแสดงสถานะการชาร์จก็จะโชว์ดังรูป การทำงานของตัวเครื่อง ปุ่มแรก ไว้สำหรับเปิด เปลี่ยนโหมด และก็ปิดตัวเครื่อง ไฟดวงแรก บอกสถานะการทำงานโหมดที่ 1 ไฟดวงสอง บอกสถานะการทำงานโหมดที่ 2 ไฟดวงสุดท้าย คือสถานะของแบตฯ ต่อไปคือข้อดีที่เห็นได้ชัดเลย เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า คือมันสามารถวางแนวตั้งได้ ถ้าเป็นตัวเก่าต้องวางนอนไปกับพื้น ซึ่งบางทีมันก็ชอบกลิ้งตก 555

ปัจจุบันหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของแบรนด์ Xiaomi มีหลายรุ่น หลายราคา ตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น แต่สำหรับวันนี้ผมจะมานำเสนอ รุ่นเริ่มต้น ถูกที่สุด! โดยราคาอยู่ในช่วง 3,500 - 3,900 บาท ชื่อรุ่นว่า Xiaomi Robot Vacuum Mop G1 (MJSTG1) สามารถทำอะไรได้บ้าง ? คุ้มไหมที่จะซื้อ ? ข้อสังเกต เนื่องจากตัวเครื่องเป็นเวอร์ชั่นจีน อาจจะไม่สะดวกสำหรับการใช้งาน เครื่องไม่สามารถจำกัดพื้นที่เข้าทำงานได้ เช่น บางจุดเราอาจจะไม่ต้องการให้ดูดฝุ่น เครื่องจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงวัตถุเป็นแท่งขนาดเล็ก เช่น ขาตู้ ขาเตียง หรือเสาขนาดเล็ก กรณีใช้งานแบบถูพื้น และดูดฝุ่นพร้อมกัน ต้องมั่นใจว่าพื้นที่ต้องไม่มีฝุ่นเยอะจนเกินไป

ตอนนี้สำหรับคนที่ใช้งานมือถือ android น่าจะเคยประสบปัญหาเหมือนกันคือ มือถือรุ่นใหม่ๆ สายชาร์จจะเป็นแบบ Type-c กันหมดแล้ว แต่เรายังมี Gadget หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆที่ยังใช้งานสายชาร์จแบบ Micro-usb เช่น power bank, redmi airdots อื่นๆ สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ก็สามารถไปได้หลายทาง เช่น เอาสายชาร์จ Micro-usb เก่ามาใช้งานซิ หรือซื้อสายชาร์จแบบ 3 in 1 ที่มีหัว Micro-usb ซิ แล้วแต่เลย ว่าใครชอบแบบไหน แต่สำหรับวันนี้ผมจะมาแนะนำ และรีวิวเจ้าอะแดปเตอร์ เพื่อแปลงจาก Type-c เป็น Micro-usb หน้าตาของ Packaging ดูแน่นหนา แข็งแรง ตามมาตรฐานของแบร์น Ugreen (งานเขาค่อนข้างดีอยู่นะ ถ้าเทียบกับแบร์นจีนอื่นๆ) เมื่อแกะ Packaging ออกมาก็จะเจอกับ อะแดปเตอร์, สายคล้อง และก็คู่มือ ปกติเราก็ไม่ค่อยอ่านกันหรอก ขนาดของอะแดปเตอร์เล็กมาก เมื่อเทียบกับเหรียญ 5 บาท แนะนำใช้สายคล้องที่แถมมาในกล่องแขวนไว้เลย เพื่อป้องกันมันหาย ส่วนจะเอาไปคล้องกับอะไร ก็แล้วแต่สะดวกเลย ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ หรือมือถือก็ได้ ต่อไปมาลองใช้งานจริงกันเลยดีกว่า โดยผมจะใช้งานสำหรับชาร์จ redmi airdots ซึ่งตัวนี้ยังเป็นรูชาร์จแบบเก่าอยู่เลย นั้นก็คือ Micro-usb ใช้งานได้ปกติ สังเกตได้จากไฟแสดงสถานะการชาร์จสีแดงหน้าเครื่อง นอกจาก support การชาร์จแล้ว อะแดปเตอร์ยัง support การ sync data ด้วยนะ ส่วนราคาเจ้าอะแดปเตอร์นั้นอยู่ประมาณ 50-70 บาทแล้วแต่ช่วงเวลา สามารถสั่งได้จากร้าน Ugreen Official Store ได้เลย ...

Mi Power Bank 2 เป็นรุ่นต่อยอดจากรุ่นแรก โดยมีการอัพเกรดความจุให้มากกว่าเดิมคือ 10000mAh และมีขนาดที่บางลงแค่ 14.1 มิลลิเมตร อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 ทั้งขาเข้า และขาออก ส่วนตัวราคาก็ถือว่าเป็นมิตรกับทุกคนตามแบบฉบับ ผลิตภัณฑ์ Xiaomi กล่องผลิตภัณฑ์ Mi Power Bank 2 กล่องภายนอกของตัว Mi Power Bank 2 ก็จะเรียบๆ พร้อมตัวอักษรภาษาจีน + ภาษาอังกฤษ (เนื่องจากสินค้าตัวนี้ไม่ได้เป็นสินค้าเวอร์ชั่น inter) คุณสมบัติพิเศษ ประเภทแบต Lithium polymer รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 มีวงจรป้องกันการชาร์จไฟเกิน ระบบป้องกันแบบ 9 ประเภท ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ระบบอัจฉริยะที่จะปรับระดับกระแสไฟส่งออกได้อย่างอัตโนมัติ สามารถชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการกระแสต่ำๆได้ เช่น Mi band 2 (0.025 A) อุปกรณ์ภายในกล่อง Mi Power Bank 2 เมื่อเปิดกล่องสินค้าออกมา เราก็จะเจอกล่องอีกชั้นนึง ภายในจะบรรจุเจ้าตัว Mi Power Bank 2 ซึ่งจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด 130 x 71 x 14.1 มิลลิเมตร ขนาดภายนอก Mi Power Bank 2 อุปกรณ์ภายในกล่อง ...

ปัจจุบันหลอดไฟแบบ led นิยมกันแพร่หลาย เพราะด้วยคุณสมบัติความสว่าง และไม่มีความร้อนสะสม อีกทั้งราคาถูก ซึ่งหลอดไฟรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เริ่มมาใช้งานแบบ led เหมือนกัน กล่องผลิตภัณฑ์ Oslamp S2 สำหรับเจ้าหลอดไฟ oslamp s2 เป็นสินค้าจากประเทศจีน ซึ่งมี official store อยู่บน aliexpress ถ้าลองไปค้นหาหลอดไฟรถยนต์แบบ led เจ้าตัว oslamp จะเป็นตัวสินค้าที่มียอดการสั่งซื้อเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งน่าจะพอการันตีคุณภาพได้ระดับนึง เปิดกล่อง Oslamp S2 เมื่อเปิดตัวกล่องของ oslamp ภายในจะเจออุปกรณ์แค่ 2 อย่างคือ หลอดไฟ led กับ คู่มือภาษาอังกฤษ ซึ่งตัวสินค้าตัวนี้จะเป็น Plug type H4 (ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น) รายละเอียดสินค้า H4,Hi-Lo Beam ( 72W@high beam, 72W@ low beam) Power: 72W/set Luminous Flux: 8000lm/set(4000lm/bulb) Operating Voltage: DC 9–32V(fit 12V,24V vehicles) Color Temperature: Pure White 6500K IP65 rated water and dust seal,360 degree beam angle Material: Aviation 6063 aluminum profile Operating Temperature: -40–80 degree Celsius Over 30000hrs lifetime หลอดไฟ LED Oslamp S2 ตัวของหลอดไฟ oslamp แบบ H4 จะเป็นแบบแยกไฟสูง ไฟต่ำ โดยประกอบด้วย led 3 ชิ้น แบบ 360 องศา ซึ่งจะทำงานตอนไฟสูง และไฟต่ำจะสว่างแค่ 2 ชิ้น แบบ 270 องศา หลักการทำงานหลอดไฟต่ำ-ไฟสูง สเปคของสินค้าแจ้งว่าสามารถใช้งานได้ 30,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 40 ปี ต่อการใช้งานวันละ 2 ชั่วโมง โดยมีการระบายความร้อนผ่านทาง Heatsink และมีพัดลมช่วยระบายความร้อนอีกทาง พัดลมระบายความร้อนหลักการระบายความร้อน กรณียังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วเปิดใช้งานหลอดไฟ led จะได้ยินเสียงของพัดลมระบายความร้อนค่อนข้างชัดเจน แต่ถ้ารถยนต์สตาร์ท เสียงพัดลมก็แทบจะไม่ได้รบกวนห้องโดยสาร ขั้นตอนการติดตั้งหลอดไฟ LED แบบ H4 วิธีการติดตั้งหลอด led คือให้ถอดหลอด halogen เดิมออกจากโคมไฟ จากนั้นใส่หลอด led เข้าไปแทนที่ได้เลย ซึ่งขั้นตอนการเปลี่ยนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทของหลอด และรุ่นของรถยนต์ ซ้ายปิด ขวาเปิด หลอดไฟ LEDทดสอบความสว่างหลอดไฟ LED สรุปควรซื้อไหม ? ...

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมต้องใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ? แล้วมันดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดายังไง ? คือจะบอกว่ามันไม่มีคำตอบตายตัว มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆ ว่าอยากใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดมากน้อยแค่ไหน หน้าตาของแปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B Advance Power 400 ดูธรรมดามากๆ เพราะว่าเป็นรุ่นราคาประหยัด ขนาดตัวเครื่องโดยประมาณ ความสูง 21.1 ซม. ความกว้าง 3.2 ซม. ความหนา 3.7 ซม. น้ำหนัก 138 กรัม เมื่อแกะแพ็คเกจออกมาจะเจออุปกรณ์ภายใน ซึ่งประกอบด้วย แปรงสีฟันไฟฟ้า + หัวแปรง ถ่านขนาด AA จำนวน 2 ก้อน คู่มือภาษาอังกฤษ สำหรับวิธีใส่ถ่านให้บีบตรงปุ่มล่างๆของตัวแปรง แล้วดึงฝาข้างล่างออก จากนั้นทำการบรรจุถ่านเข้าไป ปิดฝาให้เรียบร้อย แค่นี้แปรงไฟฟ้าของเราก็พร้อมใช้งานแล้ว การใช้งานให้กดปุ่มตามรูปเพื่อเปิด และกดอีกครั้งจะเป็นการปิด ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้วหัวแปรงจะหมุน เราก็แค่เอาไปวางบนฟันของเราได้เลย สรุปควรซื้อไหม ? ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องเหงือกร่น ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า ถ้าคุณตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือน แล้วมีปัญหาเรื่องหินปูนที่เยอะกว่าปกติ แสดงว่าคุณแปรงฟันไม่สะอาด ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นใช้แปรงไฟฟ้า รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นรุ่นราคาประหยัด สามารถใช้งานได้ 900 นาทีหรือ 225 วัน (ใช้งานวันละ 2 ครั้ง) ถ้าคุณอยากเท่ห์เหมือนในหนังฝรั่ง ก็ลองเปลี่ยนมาใช้แปรงไฟฟ้า (เกี่ยวไหม 555) ข้อสังเกต ไม่มีระบบตั้งเวลาการแปรงฟัน ไม่มีโหมดการแปรงฟันให้เลือกใช้งาน ใช้พลังงานจากถ่าน AA ราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับแปรงธรรมดา

ปกติแล้วผมจะเป็นคนล้างรถด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกตัวเองล้างได้สะอาดกว่าร้าน และได้สำรวจรถไปพร้อมๆกัน ซึ่งปัญหาของคนล้างรถเองคือ เราจะใช้ถังน้ำสำหรับล้างรถ แล้วก็จุ่มฟองน้ำเพื่อเอามาถูรถ ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ สิ่งสกปรกก็จะผสมอยู่ในถัง แล้วรถเราก็จะเป็นคราบสกปรก ล้างยังไงก็ไม่สะอาด แต่สำหรับวันนี้ผมจะแนะนำปืนฉีดโฟม ตัวช่วยในการฉีดโฟม จากนั้นค่อยใช้ฟองน้ำถู แล้วฉีดน้ำล้างคราบสกปรกออกไป ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีล้างรถด้วยถังน้ำแบบเดิมๆไปเลย ปืนฉีดโฟม หน้าตาของเจ้าปืนฉีดโฟมจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่คือ ปากกระบอก หลอดเก็บแชมพู และด้ามจับเชื่อมต่อน้ำล้างรถ สามารถใช้เปิด-ปิดการไหลของน้ำ ปุ่มปรับระดับความแรงของโฟม เราสามารถเปิด-ปิดการทำงานของโฟมได้ และยังสามารถปรับระดับบริการของโฟมได้ถึง 3 ระดับ หัวปรับระดับของน้ำ 8 แบบ สำหรับหัวของปืนฉีดโฟม เราสามารถปรับรูปแบบของน้ำได้ 8 แบบ ซึ่งจะใช้วิธีหมุนบริเวณหัว วนไปเรื่อยๆ การเชื่อมต่อปืนฉีดโฟม สำหรับการเชื่อมต่อปืนฉีดโฟมนั้น ต้องมีข้อต่อสายยางขนาด 1/2 นิ้ว ซึ่งหาซื้อทั่วไปตามร้านอุปกรณ์ เช่น Homepro, บุญถาวร การเติมแชมพูล้างรถ เราสามารถบิดกระบอกใส่แชมพูออกมา เพื่อจะบรรจุแชมพูสำหรับล้างรถ ซึ่งการเติมแชมพูจนเต็มก็เพียงพอสำหรับการล้างรถยนต์ได้ 1 คัน รูปแบบปืนฉีดโฟมแบบต่างๆ จากเว็บผู้จำหน่ายทดสอบฉีดน้ำ 8 แบบทดสอบฉีดโฟม ข้อสังเกต ใช้แชมพูค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบปริมาณกับการใช้แบบถัง การฉีดโฟมควรจะปรับหัวฉีดแบบ mist เพื่อประสิทธิภาพของฟองโฟมที่เยอะ

Android TV Box คืออะไร แล้วมันต่างยังไงกับ Android Box ? แล้วควรเลือกซื้อแบบไหน ? เพราะอะไร เดี่ยววันนี้เราลองมาหาคำตอบกันครับ Android TV Box กล่อง Android ที่ติดตั้ง OS ของ Android TV จาก Google โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ย่อมได้รับการ Upgrade จากทาง Google และที่เด็ดกว่านั้นคือ Android TV จะมีการติดตั้ง Chromecast built in นั้นหมายความว่าซื้อ 1 ได้ถึง 2 แน่นอนว่ามี Google play store มาให้ด้วย แต่จะใช้งานได้แค่ APP ที่ Support Android TV เท่านั้น แต่เราก็สามารถหาไฟล์แบบ APK มาติดตั้งได้เหมือนกัน Android Box กล่อง Android ที่ติดตั้ง OS ของ Android version mobile ซึ่งต้องผ่านการ custom ตัวของ OS มาพอสมควร เพื่อจะสามารถติดตั้งได้ในกล่อง Android Box แต่ละรุ่น ตัวกล่องก็จะมี Google play store ติดตั้งมาด้วย เราสามารถติดตั้ง APP เพิ่มเติมได้เลย หรือจะหาเป็นไฟล์แบบ APK มาติดตั้งก็ได้ ส่วนราคานั้นมีเริ่มต้นตั้งแต่ 500 กว่าบาท ไปจนถึงราคาแพงๆ ขึ้นอยู่กับสเปคของตัวกล่อง ...

สมัยนี้ทุกคนมีมือถือ และถ้าถามว่ามีใครบ้างใช้ประโยชน์จากมือถือในการนำทางละ คงมีหลายคนบอกว่าใช้งานบ้าง ใช้งานบ่อย ใช้ตลอดแหละ แต่…ถ้าจะขับรถไป ดูมือถือไปคงไม่ปลอดภัยแน่นอน แล้วถ้าจะหาตัวยึดมือถือกับคอนโซลรถละ ควรจะใช้แบบไหนดี วันนี้จะมาแนะนำตัวยึดมือถือในรถระบบแม่เหล็กติดกับช่องแอร์ **Aukey Magnetic HD-C5 **ราคาประมาณ 17x-20x บาท อุปกรณ์ในกล่อง อุปกรณ์ในกล่อง Aukey Magnetic HD-C5 ฐานแม่เหล็กสำหรับเสียบช่องแอร์ แผ่นแม่เหล็กแบบกลม แผ่นแม่เหล็กแบบผืนผ้า คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ใช้แผ่นแม่เหล็กแบบกลมหรือแบบผืนผ้า แปะด้านหลังมือถือของเรา (ทำความสะอาดพื้นผิวของมือถือก่อนนะ) โดยการลอกกาวสองหน้าที่ตัวแม่เหล็ก แล้วก็บรรจงติดให้เข้ากลางมือถือ การแปะแม่เหล็กด้านหลังมือถือ จากนั้นให้นำฐานแม่เหล็กไปเสียบในช่องแอร์ของรถยนต์ โดยเลือกตำแหน่งที่เราวางมือถือแล้วมองถนัด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ การยึดฐานแม่เหล็กเข้ากับช่องแอร์ ขั้นตอนสุดท้ายให้นำมือถือของเรามาติดเข้ากับฐานแม่เหล็ก เราจะรู้สึกถึงแรงดึงดูด (แรงมากๆ) ถือว่าเสร็จการติดตั้งแล้วครับ เมื่อจะเลิกใช้งานก็แค่ดึงมือถือของเราออก สะดวกใช่ไหมละ การยึดมือถือเข้ากับฐานแม่เหล็ก

Mi Wi-Fi Amplifier มันก็คือตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi จาก Router สำหรับท่านที่ประสบปัญหา Wi-Fi ไม่ครอบคลุมทั้งบ้าน ถึงแม้ตัวมันจะเล็กจิ๋ว แต่ว่าคุณภาพเกินตัวมากๆ เพราะทำงานรับส่งสัญญาณได้สูงสุด 300Mbps แล้วราคาล่ะแพงไหม??? ตามมาตรฐานของ Xiaomi อุปกรณ์ทุกอย่างต้องมีคุณภาพราคาประหยัด เจ้าตัวจิ๋วนี้ก็เหมือนกัน ราคาประมาณ 2xx-3xx บาท ข้อมูลเบื้องต้น Interface: USB 2.0 Transmission Rate: 300Mbps Antenna: Built-in WiFi Network Frequency: 2.4GHz Chip type: Ralink Hotspot: 3G Only วิธีใช้งาน 1.นำเจ้า Mi Wi-Fi Amplifier เสียบ port usb เพื่อจ่ายไฟให้กับเจ้าอุปกรณ์ Mi 2.อุปกรณ์ Mi จะมีไฟสีส้ม กระพริบ จากนั้นให้ไปโหลด APP Mi Home Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.xiaomi.smarthome iOS : https://itunes.apple.com/us/app/xiao-mi-zhi-neng-jia-ting/id957323480?mt=8 3.เปิด APP Mi Home จากกดเครื่อง + เพื่อทำการ Add Device ...